2552-04-30

กระเป๋าของพระเอก

ในการเข้าและออกจากโรงเรียนแต่ละอาทิตย์ ของนักเรียนทหารนั้น สิ่งหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้นอกเหนือไปจากเครื่องแบบ ก็คือกระเป๋าหนังสีดำที่พวกเราเรียกกันว่า เจมส์บอนด์” (ส่วนที่มาว่าทำไมถึงเรียกอย่างนั้น นั่นผมก็ไม่ทราบได้)


อะไรอยู่ในกระเป๋าเจมส์บอนด์? เคยสงสัยกันบ้างไหมครับ ไอ้หนุ่มนายร้อยที่ยืนทำหน้าญาติหาย เหงื่อไหลซิกหน้าป้ายรถเมล์ มือซ้ายถือเจมส์บอนด์แขนสั่นริก ๆ ประหนึ่งเป็นโรคพาร์กินสัน มือขวากำหลวม ๆ พร้อมต่อยหมาทุกตัวที่หลงผิดคิดว่าเสาไฟฟ้า หมายประกาศศักดาแสดงเขตอิทธิพลฉี่รดพ่อโรบอท...เขาเป็นพระเอกของเรา


บนรถเมล์...พระเอกของเราขึ้นไปยึดทำเลยืนเท่ห์ตอนกลางคัน แม้รถเมล์ในกรุงเทพจะเหยียบมิดไม่คิดถึงยมบาล เบรกหัวทิ่มดั่งเข้าใจว่ากำลังขับช็อปเปอร์ แล้วมีนักศึกษาสาวซ้อนท้าย พระเอกของเราก็ยังยืนเกร็งนิ่งปานลิงตาย หาได้กระดุกกระดิกให้เสียบุคลิกไม่ เวลานั้นพระเอกของเราคิดว่า...หนักชิบเป๋ง ทั้งคันรถจะไม่มีคนที่มีที่นั่งใจดี ช่วยแบ่งเบาเอาไปถือให้เลยเหรอ...


สายตาแอบสอดส่ายผ่านกระบังหมวก...อืม ทางซ้ายเด็กช่างกล...ดูหน้าตาก็รู้ยี่ห้อขืนเข้าไปใกล้ ๆ อาจโดนเสียบเอาง่าย ๆ...ทางขวาก็คุณป้า เพิ่งกลับจากตลาดกลิ่นปลาสดยังคลุ้ง กระเป๋าได้เหม็นไปสามวัน... ถัดไปอีกเบาะก็เด็กเจ็ดขวบ กระเป๋าอาจทับเด็กตาย ... ข้างหลังยิ่งไม่น่าไว้ใจ โจรแน่ ๆ ...อ่ะ นั่นนักศึกษาสาวท่าทางเรียบร้อยใจดี อืม คนนี้น่าจะพอฝากผีฝากไข้ได้... ว่าแล้วพระเอกก็เดินเข้าชิด


แล้วประเป๋าของพระเอก ก็เริ่มกะหลิ่มกะเหลี่ยเข้าไปใกล้ชายกระโปรงเจ้าหล่อน...ทีละนิด ๆ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวที่หมกมุ่นอยู่กับนิตยสารคู่สร้างคู่สมจะยังไม่รู้สึกตัว ยังคงก้มหน้าอ่านเฉย เหมือนไม่ได้สังเกต พระเอกของเราเริ่มหงุดหงิด แกล้งเอากระเป๋าแตะขาเจ้าหล่อน...แน่ะ ๆ ยังเฉย.. อีกทีซิ... ยัง ยังเฉย... พระเอกของเราเลยรัวไปหนึ่งชุด... ได้ผล เธอเงยหน้าขึ้นมอง พระเอกของเราส่งยิ้มน้อย ๆ ขยับกระเป๋าเตรียมยื่นให้เจ้าหล่อน ที่ไหนได้คุณเธอกลับเมินหน้าหนี ยกขาขึ้นไขว่ห้างหลบเข้าด้านใน เด็กสาวสมัยนี้ ทำไมใจดำกันนักนะ...พระเอกคิด


ผ่านไปอีกหลายป้าย คนบนรถทวีเบียดเสียดทุกครั้งที่จอด อัดกันแน่นยิ่งกว่าปลาซาดีนกระป๋องในซอสมะเขือพวง เอ๊ย มะเขือเผา เอ๊ย มะเขือเทศ ... โอย แย่แน่ ๆ พอเริ่มแก่ สมองก็เริ่มเลอะ ๆ เลือน ๆ


ผีซ้ำด้ามพลอย คราวเคราะห์ซึ่งรอคอยโอกาสสำหรับผู้ไม่รอบคอบ หลงลืม ไม่ได้หมุนรหัสเปิดกระเป๋าให้เลื่อนไปจากรหัสจริง...เบียดกันไปเบียดกันมา...กระเอกก็ท้อง เอ๊ย ไม่ใช่ เจมส์บอนด์ของพระเอกของเราก็เปิดผลัวะออกมาในจังหวะที่คนขับเหยียบเบรกหยุดรถกะทันหัน ส่วนจะเบรกให้หมาเดินข้าม หรือหยุดซื้อพวงมาลัยไปคล้องคอนักร้องก็ช่างเถอะครับ แต่ที่แน่ ๆ ทุกอย่างในกระเป๋า กระจายออกสู่สายตาประชาชน วินาทีนั้น สุดจะบรรยายขอรับ...พระเอกแทบแทรกแผ่นดินหนี


...กางเกงในสีเดียวกับที่ซุปเปอร์แมนใช้ออกมายิ้มทักทายสาวๆ... เด่นเป็นสง่าดับรัศมีตำราแคลคูลัสและพลพรรคหนุมานสีอื่นไปอย่างไม่เห็นฝุ่น... ในกระเป๋านักเรียนจะมีอะไรนอกตำราและเสื้อผ้าที่เอากลับไปซัก


ควันจากท่อไอเสียจางไปแล้ว...บ้านยังอีกไกล... พระเอกของเราตั้งต้นยืนตายซากรอรถสายเดิมอีกครั้ง... ก็ใครจะหน้าหนาทนโหนรถคันเดิมกลับ เหมือนตอนผมผายลมส่งกลิ่นคลุ้งไปทั้งคันคงไม่มี ...เรื่องของความมั่น พูดกันได้เสียที่ไหน.. จริงไหมครับ

ไม่มีความคิดเห็น: