ใครๆ ก็รู้ว่าม้งเป็นชายหนุ่มร่างสันทัดจากที่ราบสูงโคราช ที่เจ้าตัวยืนยันหนักแน่นว่าโคราชน่ะภาคกลาง และม้งนี่แหละที่เป็นตัวตั้งตัวตีสองคนเจ้าต่อคู่ซี้ รวบรวมสมัครพรรคพวกชาวโคราช ประกาศเอกราชจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ...ไม่ใช่ซิโคราช ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอีสานมาก่อน เจ้าตัวยืนยันหนักแน่น และด้วยเจตนารมณ์ที่แนวแน่ ม้งจึงไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงเด็กอีสานกับเขาสักครั้ง ที่สำคัญม้งพูดภาษาโคราชซึ่งแตกต่างไปจากการเว้าลาวที่เพื่อนๆ พยายามเย้าแหย่ให้ม้งพูด ...ม้งจึงมั่นใจว่าโคราชน่ะภาคกลาง
ประตูสู่อีสานที่ตระหง่านหราอยู่ ม้งก็ให้เหตุผลว่ามันหมายความว่าถัดจากจังหวัดนี้ไปคือ อีสาน หาใช่หมายรวมถึงโคราชของม้งเข้าไปด้วยไม่ ...แม้สมัครพรรคพวกจะพยายามเอาตำราภูมิศาสตร์มากางให้ดู ม้งก็ปิดตาเสีย
ยังไงๆ โคราชก็ภาคกลาง ...ม้งบอกอย่างนั้น
ช่างเถอะครับนั่นไม่ได้สำคัญอะไรไปกว่า สิ่งที่ผมจะพูดถึง ...ความใฝ่ฝันของม้ง...
ม้งมีพี่ชายคนนึง ซึ่งก็เป็นนักบินลำเลียงของกองทัพอากาศ และก็เป็นรุ่นพี่นักเรียนนายเรืออากาศที่ห่างรุ่นกับเราพอสมควร โดยบุคลิกที่ยิ้มง่ายหน้าตาใจดี พวกเราก็ลงความความเห็นว่าพี่ของม้งก็เหมาะกับการเป็นนักบินลำเลียงดี
แต่ดูเหมือนม้งจะไม่คิดเช่นนั้น เจ้าตัวพยายามค่อนขอดพี่ชายอยู่เสมอว่า ชายชาตินักรบมันต้องบินเครื่อง
บินขับไล่ ถ้าไม่ใช่เอฟห้า ก็ต้องเอฟสิบหก กับเพื่อนๆ ก็เช่นกัน ใครที่ใฝ่ฝันจะบินเฮลิคอปเตอร์ บินเครื่องบินลำเลียง หรือเครื่องบินแบบอื่นๆ จะโดนม้งกระแนะกระแหน และปลุกกระแสนักรบให้เปลี่ยนความคิดตลอดเวลา
สำหรับม้ง ..ต้องบินเอฟสิบหกไล่ยิงกันแบบในหนัง ถึงจะสมภาคภูมิกับความเป็นชายชาตรี
เพื่อนๆ ฟังม้งแล้วก็ส่ายหน้า เดินไปหากระโปรงมาใส่ “งั้นพวกกูขอเป็นลูกผู้หญิงนั่งเฝ้าเรดารห์รอดักยิงมึงแล้วกัน” นรเซ็งหนึ่งในพลพรรคชาวอีสานประชดม้ง
ม้งเป็นเจ้าของคติที่ว่า “ความพยายามอย่างไม่ลดราวาศอก สามารนำมาซึ่งความสำเร็จ” ม้งจึงฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เข้าห้องเพาะกายและใช้เวลากับเครื่องเล่นต่างๆ ทุกเย็น กล้ามเนื้อของม้งจึงสวยแบบอาโนลด์ ซวาเซนเนกเกอร์ ... ถ้าตัดหัวม้งทิ้งเสีย มันคงได้รางวัลชายงามทุกๆเวที ...เพื่อนๆ บอกม้งอย่างนั้น
จึงไม่แปลกอะไรที่ม้งจะชอบถอดเสื้อ ยืนอยู่หน้ากระจกครั้งละนานๆ และทุกครั้งม้งก็จบด้วยแฟชั่นโชว์ เดินอวดกล้ามเต๊ะท่านักบินไปทั่วโรงนอนพลางยักคิ้วยักกล้ามหน้าอกสลับไปสลับมาให้เพื่อนๆ หมั่นไล่เตะเล่น
แม้แต่สาขาวิชาที่เลือก ม้งก็เลือกวิศกรรมอากาศยานนัยว่าให้สอดคล้องกับความต้องการเป็นนักบินเอฟสิบหก ที่ควรจะเข้าใจกระจ่างในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ ...และม้งก็ทำได้ดี
ม้งจะขยันและตั้งใจเรียนทุกวิชาที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานและการบิน สมุดเลคเชอร์ ของม้งจึงอัดแน่นไปด้วยตัวหนังสือซึ่งแทบแยกไม่ออก อันไหนผักบุ้ง อันไหนสะระแหน่ ...มันท่วมทุ่งไปหมด
ก่อนสอบทุกเทอมก็จะได้ม้งนี่ล่ะ สรุปเลคเชอร์ที่เรียนมาทั้งหมดให้ และเจ้าตัวก็ดูจะภูมิใจเป็นอย่างมาก เปิดติวให้เพื่อนๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวทุกคราวไป ...เมื่อการสอบผ่านพ้น ทุกคนจะยิ้มระรื่นด้วยสอบผ่านกันเกือบหมด จะเหลือก็แต่ม้ง ...ที่จะนั่งอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้นเตรียมตัวสอบแก้ตัวต่อ ...เจ้าตัวได้แต่บ่นกระปอดกระแปดว่า อาจารย์ไม่เข้าใจทฤษฎีที่เขาอธิบาย
ตัวเขาช่างอาภัพคล้ายไอน์สไตน์สมัยเรียนหนังสือ พวกเราก็ได้แต่ยิ้ม ...เวทนาม้งอยู่ในใจ
ด้วยความที่ม้งมีจิตใจหมกมุ่นอยู่กับความเป็นทหาร ใครมาชวนให้เป็นครูฝึกหรือร่วมกิจกรรมทางทหารต่างๆ ม้งจึงไม่เคยปฏิเสธ ...ด้วยความเป็นทหารที่อัดแน่นทุกอณูโลหิต อย่าได้เอาเรื่องผู้หญิงมาพูดกับม้งทีเดียว นักรบและอิสตรีเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจไปด้วยกันได้ ...ผู้หญิงนำพาความอ่อนแอมาสู่นักรบ ม้งจึงปฏิเสธที่จะมอบหัวใจชายชาติทหารให้กับสาวคนไหน
เท่าที่ดูผิวเผิน ก็ดูเหมือนจะไม่มีสาวใดคิดอยากดูแลหัวใจม้งเช่นกัน
ความภูมิในตัวเองของม้ง หากเอามาต่อกัน เห็นทีจะแทงทะลุเมฆไปเสียบพระอาทิตย์ ...ความเชื่อมั่นของม้งสูงจนน่าใจหาย
กระทั่งเสียงกรนของม้ง ใครว่าเสียงเหมือนโรงสี ม้งจะมองด้วยตาเขียวปั๊ด แต่ถ้าบอกว่าเสียงกรนฟังแล้วยังคล้ายสันดาปท้ายเครื่องบินไอพ่น ...วันนั้นม้งจะเดินยิ้มไม่หุบไปทั้งวัน
ม้งไม่ได้บ้ายอ ...แต่ม้งรักของม้ง
ม้งจึงเชื่อมั่นว่า ...เป็นนักบินเอฟสิบหกอยู่ใกล้แค่เอื้อม และเจ้าตัวก็หลับฝันถึงมันทุกคืน
...........................................
จบชั้นห้าได้ไม่นาน เราก็ได้การ์ดแต่งงานของม้ง
งานแต่งงานของม้งเต็มไปด้วยสาว ๆ ไฮโซ สมกับที่เจ้าสาวเป็นแอร์โฮสเตสและเจ้าบ่าวเป็นนักบินการบินไทย ใช่ครับ…ม้งเป็นเพื่อนเราชุดแรกที่จบชั้นห้าแล้วลาออกไปเป็นนักบินการบินไทยม้งลืมทุกคำที่ม้งพูด
“กูจะไม่แต่งงานก่อนอายุสี่สิบ ผู้ชายมันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มซิวะ เรื่องอะไรจะหาห่วงมาสวมคอ ยังไง ๆ กูก็จะอยู่เป็นโสดคนสุดท้ายของรุ่น” ม้งยืนยันหนักแน่น
“มึงไม่อายพี่มึงเหรอ กูเห็นมึงกระแนะกระแหนอยู่ทุกวันสมัยเรียน”
“กูไม่อายหรอก เพราะพี่กูก็ลาออกมาบินการบินไทยพร้อมกูนี่แหละ” ม้งตอบพร้อมยักกล้ามหน้าอกสองที
เพื่อน ๆ มองม้งอย่างปวดหัว นึกถึงคำพูดของม้งแล้ว อยากจับเจ้าสาวแก้ผ้า ถอดเอากระโปรงไปให้ม้งใส่ แต่ก็กลัวจะเป็นที่อุจาดตากันทั้งงาน
วันนั้นพวกเราเลยเปลี่ยนแผนกันถล่มม้งด้วยการฟาดเหล้าหมดทุกโต๊ะ รวมถึงโต๊ะพ่อตาของม้งด้วย นัยว่าให้หายแค้นที่หลอกด่าพวกเรามาตั้งนาน
จนวันนี้ ...ถึงแม้ว่าเราจะอภัยให้ม้งไปนานแล้ว แต่ก็ยังใช้มุขนี้หลอกกินเหล้าฟรีมาตลอด
รอให้การบินไทยซื้อเอฟสิบหกให้ม้งบินรับส่งผู้โดยสารกรุงเทพ – โคราช (ภาคกลางบ้านม้ง)
แล้วพวกเราจะเลิกเหล้าฟรี โอเคไหมม้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น