2552-05-02

เวรยามและผีอาคารเรียน


เวรยามเป็นของคู่กันของทหาร ชนิดที่แยกก่อนกินไม่ได้ เหมือนปาท่องโก๋และข้าวต้มมัด ความหมายในปทานุกรมจะว่าอย่างไรนั้นผมไม่ทราบ แต่พวกเราคนเข้าเวรยามแยกมันง่ายๆ อย่างนี้


เวรก็คือ หน้าที่รับผิดชอบอะไรก็ตาม ที่มีช่วงเวลาเข้ามาจำกัดให้เราดูแลในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ขณะที่ยามมีความหมายที่เพิ่มเติมเข้ามาว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องแต่งกายชุดฝึกและมีอาวุธประจำกาย เพื่อคุ้มครองดูแลสิ่งนั้น ซึ่งไอ้สิ่งที่ว่านั้นก็มักจะหมายถึงสถานที่สำคัญๆ เช่นห้องส้วม มุมบันได ซอกตึก และหลังต้นไม้


เราจึงมักจะพบยามในเวลาวิกาล ยืนน้ำลายยืดเฝ้าอาคาร พร้อมปืนเล็กยาวคู่ใจ ขณะที่ตอนกลางวัน จะเห็นแต่เวรนั่งโต๊ะนั่งน้ำลายไหลคอนรับโทรศัพท์ และก็ยังมีเวรอีกชนิดที่นักเรียนนายเรืออากาศผู้ไร้ญาติขาดมิตรเกลียดที่สุด มันคือเวรสโมสร


เวรสโมสรเป็นเวรนั่งเฝ้าห้องเยี่ยมญาติ ที่มีไว้รับรองบรรดาแฟนนักเรียนนายเรืออากาศ หน้าที่หลักก็คือคอยโทรศัพท์ตามตัวสุภาพบุรุษที่สาวๆ ต้องการมาพบหน้าหล่อน (น้ำเสียงอาจสะบัดนิดๆ ด้วยฤทธิ์ของความอิจฉา อันนี้อย่าว่าผล... มันเป็นธรรมดาของคนที่เก็บกดและขุ่นเคืองในความหลัง)

แล้วแฟนพี่แฟนน้องแต่ละคนน่ะใช่ย่อยซะที่ไหน หน้าตายังกะแคทลียา แมคมานามา น่ารักอย่างกะวิโนน่า สกายวอคเกอร์ มิหนำซ้ำแต่งกายประมาณบริทนี่ ฮูเปียร์ หุ่นแต่ละนางก็ชวนให้หัวใจตกไปถึงตาปลาหัวแม่ตีน ยิ้มทีเรานี่น้ำลายไหลเปียกถึงกางเกง

กางเกงที่ว่า...หมายถึงกางเกงตัวนอกครับ ไม่ใช่ตัวใน


ขนกันมาขนมนมเนย ป้อนข้าวคำน้ำคำ ก้อร้อก้อติกระริกระรี้ พูดคำหยิกที หยอกล้อต่อกระซิก จับมือถือแขน โซฟาก็กว้างพอช้างนอน ยังเบียดกันเหมือนขึ้นรถเมล์


หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เย็นวันเสาร์ เราก็ได้แต่นั่งเป็นประธานปางห้ามญาติ ส่วนบางคนอาจขอเป็นพระสังกัจจายนั่นก็สุดแท้แต่


ตาหนึ่งอ่านหนังสือ อีกตาคอยเหล่ด้วยความหมั่นไส้ มิวายผึ่งสองหูฟัง อย่าว่าแต่เสียงกระซิบเลย เสียงหัวใจมดเต้นยังได้ยิน... อยากมีแฟนใจจะขาด อยากมีคนขนขนมนมเนยมานั่งกินด้วยกันบ้าง ไม่ต้องพิซซ่า แม็คโดนัล เคเอฟซีหรอก ลูกชิ้นปิ้งขนมครกก็พอใจแล้ว

เพราะฉะนั้น อย่าได้หยาบคายมาจ้างชายโสดผู้เย่อหยิ่งเข้าเวรสโมสรเด็ดขาด ไม่งั้นพ่อเตะตายชักเอาที่เดียว


.................................................


จิ๊บเป็นหนุ่มทรงกระบอกจากนครปฐม พูดจาเสียงดังฟังชัดทะมัดทะแมงสมเป็นชายชาติทหาร ได้รับการยอมรับให้เป็นหัวหน้ากองพันเวรยามประจำรุ่น มีหน้าที่รับผิดชอบการเข้าเวรเข้ายามทั่วอาณาเขตโรงเรียนในราคามิตรภาพ เพื่อน ๆ ต่างหลั่งไหลจากทั่วทุกโรงนอนมาขอใช้บริการของจิ๊บ และแน่นอนจิ๊บเป็นเจ้าของสถิติที่ค้างคาวยังอาย ทั้งวันทั้งคืนสำหรับเสาร์อาทิตย์ และโพล้เพล้จนรุ่งสางสำหรับวันธรรมดา


งานอดิเรกของจิ๊บเลยกลายเป็นเรียนหนังสือไปโดยปริยาย แต่จิ๊บก็เป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย ไม่ว่าอาจารย์จะสอนไปถามไปกี่ครั้ง จิ๊บก็พยักหน้าเข้าใจตลอด... ซึ่งบางครั้งจิ๊บก็เผลอตัว อาจารย์ยังไม่ถามจิ๊บก็พยักหน้าเข้าใจอะไรของจิ๊บอยู่บ่อยๆ

จิ๊บถือเป็นมืออาชีพในการเข้ายาม อึดเป็นแรด ยืนยามติดต่อกันได้แปดชั่วโมงอย่างเข้มแข็ม ไม่เคยเลยสักครั้งที่จิ๊บจะปฏิเสธการจ้างยามของเพื่อน ๆ ให้เสียเครดิต


หากผลัดเข้ายามไม่ตรงกันแล้ว..จิ๊บเป็นเหมาทั้งคืนไม่มีพัก เพราะฉะนั้นเมื่อตารางเข้ายามประจำสัปดาห์ออก บรรดาเพื่อนผู้รักสบายและมีอันจะกินจะรีบมาติดต่อ และยัดเยียดเงินสดใส่มือจิ๊บ เพื่อการันตีธุรกิจกันก่อนล่วงหน้าหลาย ๆ วัน


เพราะยามบางจุดบางพื้นที่ การหาคนเข้าไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะยามอาคารเรียนสามที่ถูกโดดเดี่ยวจากอาคารอื่นๆ ยามค่ำคืนดึกดื่นบรรยากาศวังเวงเหมือนป่าช้า แม้แต่หมาก็ไม่กล้าไปเดินผ่าน... ลือกันว่า อาคารนี้มีผี... ผีขี้เล่นเสียด้วย


เสียดายที่ผีขี้เล่นตัวนี้ไม่น่ารักเหมือนนางเอกโปเยโปโลเย..ก็ถ้าผีสวยขนาดนั้น จะมาเล่นด้วยทั้งคืน พวกเราก็เห็นจะแย่งเข้ายามกันทั้งโรงเรียน


เพราะฉะนั้นยามอาคารนอนสาม เป็นยามที่ไม่มีใครอยากเข้า โดยเฉพาะผลัดหลังเที่ยงคืน ราคาการจ้างยามจึงแพงไปกว่ายามอาคารอื่น... แม้ว่าจะยังไม่มีใครเคยเจอมากับตัวเอง แต่สิ่งที่เล่าต่อๆ กันมารุ่นต่อรุ่น ก็ทำเอาทุกคนเสียวสันหลังทุกครั้งเมื่อต้องเฉียดเข้าไปในยามวิกาล


ข้างแรมคืนหนึ่งในฤดูหนาว แสงดาวริบหรี่ดั่งหิ่งห้อย ลมหนาวแทรกตัวผ่านชุดฝึกเข้ากรีดผิวเนื้อจนสะท้าน จิ๊บหลบตัวเองจากหน้าโถงอาคารเข้าไปยืนกอดปืนหน้าบันไดบนตึก... แน่นอนตึกอาคารเรียนสาม เสียงลมที่หวีดหวิว ทำให้บรรยากาศไม่เงียบอย่างเคย


จิ๊บเหลือบดูนาฬิกา เหลืออีกสี่สิบนาทีก็จะหมดผลัด และต้องวิ่งไปเปลี่ยนยามเพื่อนที่อีกอาคารนอน คืนนี้เขาเข้ายามทั้งคืนเช่นเคย... จิ๊บยิ้มน้อยๆ นึกถึงเม็ดเงินที่หาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง



ถึงจะซุกตัวอยู่บนอาคารแต่ความเย็นของอากาศ ก็ทำให้จิ๊บกระสับกระส่ายอยากปลดทุกข์ขึ้นมาทุกที แม้จะปวดมาตั้งแต่ก่อนค่ำ แต่มันยังไม่อัดอั้นมากพอจะปล่อย จิ๊บจึงเพิกเฉยจนเวลาล่วงผ่านมาถึงตอนนี้


ความอัดอั้นทวีขึ้นๆ เหงื่อเม็ดเป้งผุดพราวขึ้นเต็มหน้า ขนแขนทั้งสองข้างลุกชูชัน ทั้งอากาศที่หนาวอย่างยิ่ง ไม่ไหวแล้ว... จิ๊บกระโจนพรวดขึ้นบันไดตึกตรงเข้าห้องน้ำ

ข้างโถงตึกชั้นสอง ทันทีที่วางปืนพิงกำแพง สลัดเสื้อชุดฝึกหลุดพ้นกางเกงได้ รถด่วนขบวนด่วนพิเศษก็ทะยานพรวดผ่านอุโมงค์ หวุดหวิดจะแหกโค้งก่อวินาศกรรมเรี่ยราดให้ชวนอุจาด


อา! ช่างมีความสุขจริงหนอ ใครกันที่นิยามคำว่า ปลดทุกข์มันช่างเป็นความจริงโดยแท้ จิ๊บเคลิบเคลิ้ม


ขณะอยู่ในห้วงภวังค์บนวิมาน ไฟทั้งอาคารก็ดับวูบ... รถด่วนขบวนสำคัญเบรกกึกเหมือนชนฝูงควาย จิ๊บยังไม่ขยับ... ไม่ใช่สงบสยบความเคลื่อนไหว... แต่เพราะตะคริวกิน

เสียงกุกกักๆจากระเบียงหลังห้องดังสลับกับเงาเคลื่อนไหวที่สลัวผ่านช่องแสง.. หมาที่ไม่รู้จักกาลเทศะหอนโหยหวนมาจากอาคารนอนไกลๆ ฟังเหมือนเสียงสวดเรียกวิญญาณนางนาก ทั้งหมดนั้นทำลายความกล้าหาญทั้งมวลของจิ๊บจนฉี่ราด ดีว่า จิ๊บนั่งอยู่บนโถ มันจึงไหลไปกองกับโบกี้รถด่วนขบวนก่อนหน้า เหงื่อจิ๊บแตกเม็ดจนสะท้าน มือสองข้างสั่นจนไร้แรงคว้ากางเกงขึ้นใส่...จิ๊บนั่งนิ่งเป็นหมาตาย หัวสมองไม่ทำงาน นโมสามจบก็ไม่ได้ท่อง พ่อแก้วแม่แก้วก็ไม่ได้นึกถึง... กลายเป็นคนไร้ศาสนาและลูกทรพีสมบูรณ์แบบ


เพล้ง! เศษกระจกช่องแสงร่วงกราวลงเต็มหลัง สิ่งมีชีวิตสีดำร้องแม้วว ! หล่นตามมาขี่คอ


กระพริบตาอีกครั้งจิ๊บก็มายืนกุมพกกางเกงบนถนนหน้าตึกเรียบร้อยแล้ว...

เอ็มสิบหกทั้งกระบอกยังพิงกำแพงอยู่ในห้องน้ำ...

กริ๊งกรุ๋งๆ จักรยานของสายตรวจรุ่นพี่ ลั่นกระดิ่งมาจากหัวโค้ง จิ๊บจัดกางเกงเข้าที่ยืนตามระเบียบพักพร้อมรายงานเหตุการณ์ จักรยานหยุดลงตรงหน้า จิ๊บตบเท้าวันทยาหัตถ์รายงานเสียงดัง กระผม นักเรียนนายเรืออากาศ ทักษิณ ชินบัญชร เป็นยามประจำยามอาคารเรียนสามผลัดที่สาม ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เหตุการณ์ณ์น่ากลัวครับ


เฮ้ย! ปืนหายไปไหนรุ่นพี่สายตรวจถามหน้าตาตื่น

ผี ผีๆๆ เอาไปครับจิ๊บละล่ำละลักตอบด้วยเสียงสั่นหน้าซีด

ผีรุ่นพี่พูดพลางหันไปดูข้างหลัง ขยับจักรยานเข้ามาชิดตัวจิ๊บ ยื่นมือมาจับไหล่พูดเสียงกระซิบ


จริงเหรอวะน้อง

จริงครับพี่...ผีมันน่ากลัวมาก ขว้างแมวทะลุกระจกห้องน้ำ กระจกแตกกระจายเลือดสาด เสียงร้องโหยหวนไปถึงฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต น่ากลัวจริงๆครับพี่จิ๊บใส่ไข่ไปอีกสิบฟอง


และก่อนที่จิ๊บจะผิดศีลข้อสี่มากไปกว่านี้ ไฟก็ติดสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง

แมวดำเดินคาบจิ้งจกผ่านหน้าสองพี่น้องยามและสายตรวจ บนหัวแมวยังมีเศษกระจกเล็กๆ ต้องประกายวิบวับกับแสงไฟ...

ไข่สิบฟองที่ใส่ดูท่าจะมากไปหน่อย...จิ๊บอ้อมแอ้ม


ตำนานผีจิ้งจกและแมวผีดำ จึงเล่าขานกันมานับแต่นั้น... น่ากลัวครับน่ากลัว...จิ๊บยืนยัน

ไม่มีความคิดเห็น: