2552-05-02

เพื่อน

แม้จะมีความรักผ่านมามากมาย แต่จะมีรักใดหนักแน่นไปกว่าความรักระหว่างเพื่อน เพื่อนที่กอดคอร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา


รอนรอนอ่อนล้าจึงลาลับ
จะครึ่งตื่นครึ่งหลับ ก็ต้องก้าว
มีความหวังพร่างฟ้าอยู่พริบพราว
ถอนหายใจยาวยาว แล้วก้าวเดิน



เหงื่อเหนียวเหนอะไปทั้งตัว แม้บรรยากาศรอบข้างจะเย็นลงเพราะใกล้ค่ำเหงื่อกลับไหลอับชุดฝึกเหมือนไม่มีวันหมด ขอบกางเกงในบาดหน้าขาจนเป็นแผลแสบเนื่องด้วยไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้ว ปัญหา เจ็ดสิบสองชั่วโมงย่างเข้าสู่ค่ำคืนสุดท้าย แต่ระยะทางข้างหน้ากลับยังยาวไกลจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีเพียงรอยเท้าของเพื่อนข้างหน้าที่ทิ้งเป็นทางไว้ให้ตามๆ กันมา ต่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง ไม่พูดจาอะไรต่อกันทั้งสิ้น เสียงที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นเสียงลมหายใจรวยรินของกันและกัน




ช่วงเวลานั้น...เหนื่อย...จนบางทีก็ลืมไปว่า ความสนุกสนานในชีวิตเป็นอย่างไร มันเลือนหายไปเหมือนไดโนเสาร์สูญพันธุ์ นึกยังนึกไม่ค่อยออก


เมื่อผ่านมันมาถึงวันนี้ ภาพเหล่านั้นนึกขึ้นมาทีไร ก็อดยิ้มกับมันไม่ได้เสียทุกที


ณ บ้านโยธา ซึ่งมี ไอ้เบี้ยว ไอ้แก่ ไอ้นง คูโบ เป็นเจ้าบ้านกลายสภาพเป็นสถานที่ซ่องสุมประหนึ่งโรงน้ำชาแถบเยาวราช จะผิดแผกก็แต่ที่นี่มีแต่สายเลือดนายเรืออากาศ และแน่นอนสำหรับฟุตบอลแมทซ์สำคัญๆ อย่าง แมนยู-ลิเวอร์พูล ดูที่บ้านตัวใครตัวมันมีหรือจะสนุกเหมือนดูกับเพื่อน บรรยากาศของการหยามหยี่(เหยียดหยามประสาเพื่อน) ประชด กระทบกระแทกแดกดัน ผลัดกันรุกผลัดกันรับระหว่างแฟนหงส์กับแฟนผีมีหรือจะห้ามใจนักรบอย่างเราได้



ทว่าความเมามันของเรากลับไม่เป็นที่พิศวาสของบ้านใกล้เรือนเคียงเท่าใดนัก บ่อยครั้งที่สารวัตรทหารมาเยี่ยมเยือนถึงประตูบ้านและขอร้องแกมบังคับให้พวกเราเก็บอาการมากกว่านี้

เราก็พยายาม


แต่...ก็ได้แค่พยายาม ท้ายที่สุดเพียงสองเดือนให้หลังก็มีรายงานขอให้เจ้าบ้านทั้งสี่ย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ small social center หรือโรงน้ำชาของเราก็ต้องปิดตัวเองไปโดยปริยาย แต่พวกเราต่างก็หาได้มุ่งมาดอาฆาตแค้นใครๆ ไม่ ได้แต่ยอมสลายกันไปแต่โดยดี รุ่นของเราเลยสูญเสียศูนย์รวมตัวยามค่ำคืนนับแต่นั้น


มีเพียงนัดเตะฟุตบอลทุกวันอังคารเย็น ณ สนามสรรพาวุธ ที่ยังอยู่ทุกวันนี้ ซึ่ งหลังจากฟาดแข้งกันอย่างเมามัน บ้างก็จะแยกเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปหาอะไรกินต่อ บ้างที่ในสนามไม่ค่อยได้เลี้ยงลูก ก็กลับไปเลี้ยงที่บ้าน(แม่มันนั่งหน้ายักษ์รออยู่เรียบร้อยแล้ว) บ้างฝีเท้าไม่ค่อยดีไม่ค่อยได้เตะกับใครเขา ก็ต้องกลับไปฝึกฝีเท้าเตะลูกที่บ้าน เอ๊ย นี่ไม่มี


ก็บรรยากาศอย่างนี้แหละที่ผมรู้ว่าอบอุ่นนัก วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนบางคนก็จากไปเร็วเช่นกัน ในขณะที่วันนี้ไปงานแต่งงานเพื่อนคนนึง พรุ่งนี้แวะเยี่ยมหลานตัวเล็กๆ ของเพื่อนอีกคน อีกสองวันข่าวเครื่องบินตกงานศพเพื่อนอีกคน ชีวิต...ก็คงมีอยู่แค่นี้ หากมัวแต่รั้งรอก็คงไม่ได้ทำอะไร คิดได้อย่างนี้แล้ว...ยังจะอยู่เฉยๆ ได้อีกหรือ ไปหาเพื่อนดีกว่า คืนนี้ไม่เมา

แค่อยากกินข้าวกับมัน!!

2 ความคิดเห็น:

Mori กล่าวว่า...

พี่ซู นี่น้องอิง unsw เองนะ พอดีหนูมือถือเจ๊ง เบอร์พี่หายอ่ะ ยังไงช่วย text เบอร์มาให้อีกรอบได้ไหมคะ ขอบคุณค่าาาาาา

สายลมทะเล กล่าวว่า...

อีเมล์มาหาพี่ที่ sailomtalay@gmail.com นะครับอิง